Skip to content
Our blog / Updates
23 October 2025

ทําหมันแล้วอยากมีลูก เลือกวิธีใดได้บ้าง จะตั้งครรภ์ได้อีกหรือไม่


23 October 2025
Updates

การวางแผนครอบครัวด้วยการทำหมัน อาจเป็นทางเลือกที่หลายคนตัดสินใจด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน เช่น มีบุตรเพียงพอแล้ว ป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความคิดที่อยากจะมีลูกอีกครั้งก็อาจเกิดขึ้นได้ คําถามที่ตามมาคือ ทําหมันแล้วอยากมีลูกจะเป็นไปได้หรือไม่ และถ้าทำได้จะต้องทำอย่างไร

สำหรับคู่สมรสที่เคยตัดสินใจทำหมันไปแล้ว แต่อยากมีลูกในภายหลัง ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะวิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก ทำให้เราสามารถหาวิธีที่จะช่วยให้คู่รักได้มีลูกตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการแก้หมัน หรือเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้มีบุตรยากที่ทันสมัย 

บทความนี้ Beyond IVF จะมาให้ข้อมูลเชิงลึก เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่วางแผนเส้นทางการมีบุตร แม้จะผ่านการทำหมันเรียบร้อยแล้ว

การทําหมันในผู้หญิงทำอย่างไร และมีกี่วิธี?

ก่อนจะเรียนรู้วิธีมีบุตรหลังทำหมัน มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าการทำหมันฝ่ายหญิงมีอะไรบ้าง 

การทําหมันหญิง (Female Sterilization หรือ Tubal Sterilization) เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบถาวรที่นิยมมากที่สุดวิธีหนึ่ง หลักการคือการปิดกั้นท่อนำไข่ (Fallopian Tube) ซึ่งเป็นเส้นทางที่อสุจิจะเดินทางไปผสมกับไข่ เมื่อท่อนำไข่ถูกปิดกั้นแล้ว จะไม่สามารถลำเลียงอสุจิไปสู่ไข่ จึงไม่เกิดการปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ขึ้น

การทำหมันหญิงสามารถทำได้สองวิธีหลัก ๆ ดังนี้

1. การทำหมันเปียก (Postpartrum)

การทำหมันเปียก คือ การทำหมันที่ทำในช่วงเวลาหลังคลอดบุตรทันที หรือภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังคลอด สาเหตุที่เรียกว่า "หมันเปียก" เนื่องจากอยู่ในช่วงเพิ่งคลอด นอกจากนี้มดลูกของฝ่ายหญิงยังมีขนาดใหญ่และอยู่สูง ทำให้สามารถเข้าถึงท่อนำไข่ได้ง่าย และมีเลือดมาเลี้ยงมาก

แพทย์จะทำการผ่าตัดเล็ก ๆ บริเวณใต้สะดือ (Subumbilical Incision) หรือเหนือหัวหน่าว (Suprapubic Incision) เพื่อเข้าไปผูกและตัดท่อนำไข่ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังช่วยให้คุณแม่ใช้เวลาพักฟื้นเร็วกว่าหมันแห้ง

2. การทำหมันแห้ง (Interval Sterilization)

การทำหมันแห้ง คือการทำหมันที่หลังผ่านการคลอดมานานแล้ว โดยรอหลังประจำเดือนเริ่มมากปกติ เนื่องจากมดลูกได้หดตัวกลับสู่ภาวะปกติ และอยู่ลึกลงไปในอุ้งเชิงกราน แพทย์จึงต้องใช้วิธีการผ่าตัดที่ต่างออกไป เช่น

  • การผ่าตัดผ่านกล้องส่องช่องท้อง (Laparoscopy) : แพทย์จะทำการสอดกล้องขนาดเล็กผ่านแผลขนาดเล็กที่หน้าท้องเพื่อเข้าไปผูก ตัด หรือจี้ท่อนำไข่
  • การผ่าตัดเปิดหน้าท้อง (Laparotomy) : เป็นการผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพื่อเข้าถึงท่อนำไข่ 

การทำหมันทั้งสองวิธีมีจุดประสงค์เดียวกันคือการคุมกำเนิดแบบถาวร แต่จะมีรายละเอียดและวิธีการผ่าตัดที่แตกต่างกันไปตามช่วงเวลาและความพร้อมของร่างกาย อย่างไรก็ตาม สำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก ไม่ว่าจะเป็นการทำหมันแบบใดก็ตาม วิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันก็สามารถช่วยเพิ่มความสำเร็จให้คู่สมรสสามารถกลับมามีบุตรได้

ทําหมันแล้วอยากมีลูก ทำได้ไหม มีวิธีใดบ้าง?

ทำหมันถาวรแล้วท้องได้ไหม


สำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก อาจมีข้อข้อสงสัยว่าหากทำหมันถาวรแล้วท้องได้ไหม ทางการแพทย์มีทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์หลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้

 

1. ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection)


ICSI
เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัยและมีอัตราความสำเร็จสูง วิธีนี้เป็นการนำอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงตัวเดียวฉีดเข้าไปในไข่โดยตรงในห้องปฏิบัติการ หลังปฏิสนธิเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำตัวอ่อนที่ได้ย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกของมารดา

  • ข้อดี :
    • สามารถตั้งครรภ์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องท่อนำไข่ เพราะขั้นตอนการปฏิสนธิเกิดขึ้นภายนอกร่างกาย
    • อัตราความสำเร็จสูง และสามารถเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ แม้ในคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากอื่น ๆ ร่วมด้วย
    • สามารถคัดเลือกไข่และอสุจิที่มีคุณภาพดีที่สุดมาใช้ในการปฏิสนธิ
  • ข้อเสีย :
    • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าวิธีอื่น

 

2. IVF (In Vitro Fertilization)


IVF หรือเรียกกันอีกชื่อว่าเด็กหลอดแก้ว เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ที่คล้ายคลึงกับ ICSI โดยการนำไข่และอสุจิมาผสมกันในห้องปฏิบัติการ แต่ต่างจาก ICSI ตรงที่การผสมจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในจานเพาะเลี้ยง ไม่มีการคัดเลือกอสุจิที่ดีที่สุด แต่ให้อสุจิหลายตัวแข่งกันเข้าไปผสมกับไข่เอง จากนั้นนำตัวอ่อนที่สภาพดีใส่เข้าไปในโพรงมดลูก

  • ข้อดี :
    • เหมาะสำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก เพราะไม่ต้องใช้ท่อนำไข่
    • ช่วยคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมได้
    • ราคาถูกกว่า ICSI
  • ข้อเสีย :
    • อัตราความสำเร็จต่ำกว่า ICSI เล็กน้อย

 

3. แก้หมัน (Tubal Reanastomosis)


การแก้หมันเป็นการผ่าตัดเพื่อเชื่อมต่อท่อนำไข่ที่ถูกตัดหรือผูกออกไปให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่จะแก้หมันได้ไหมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วิธีการทำหมันเดิม สุขภาพท่อนำไข่ และอายุของฝ่ายหญิง

  • ข้อดี :
    • หากการผ่าตัดสำเร็จ คู่รักสามารถมีลูกได้ตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์อื่น ๆ
  • ข้อเสีย :
    • โอกาสสำเร็จขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หากท่อนำไข่เสียหายมากอาจไม่สามารถแก้ไขได้
    • ใช้เวลาพักฟื้นจากการผ่าตัดนาน และอาจมีความเสี่ยงจากการผ่าตัด
    • เพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic Pregnancy)

สำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากจากการทำหมัน แต่อยากมีลูกอีกครั้ง อาจพิจารณาวิธีที่เหมาะสมกับตนเองจากวิธีที่กล่าวมา

พิจารณาวิธีรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะกับตัวเอง และช่วยให้มีลูกได้

สำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก การพิจารณาเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ควรเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตรยาก เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะการเลือกวิธีรักษาที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่ควรพิจารณาประกอบการตัดสินใจมีดังนี้

  • อายุของฝ่ายหญิง : อายุเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของไข่ ยิ่งอายุมากขึ้น โอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะลดลง ปัจจุบันจึงมีเทคโนโลยีฝากไข่สำหรับผู้ที่ต้องการตั้งครรภ์ในอนาคต เพื่อรักษาไข่ที่มีคุณภาพดีเอาไว้
  • สุขภาพของท่อนำไข่ : แพทย์จะประเมินสภาพท่อนำไข่ว่ายังสามารถเชื่อมต่อกันได้หรือไม่
  • คุณภาพของอสุจิ : สำหรับฝ่ายชาย แพทย์จะดูคุณภาพของอสุจิด้วยว่ายังแข็งแรงหรือไม่
  • โรคประจำตัว : หากคู่สมรสที่มีโรคทางพันธุกรรม แพทย์จะช่วยแนะนำวิธีที่ช่วยคัดกรองตัวอ่อนที่มีโอกาสได้รับโรคดังกล่าวจากพ่อแม่ได้
  • ภาวะมีบุตรยากอื่น ๆ : คู่รักบางคู่อาจมีภาวะมีลูกยากร่วมด้วย เช่น ฝ่ายชายมีอสุจิไม่แข็งแรง หรือฝ่ายหญิงมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก การเลือกทำ ICSI หรือ IVF อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการแก้หมัน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทําหมันแล้วอยากมีลูก​

สำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูกอาจมีข้อสงสัยต่าง ๆ มากมาย เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาให้ดังนี้

 

1. แก้หมันหรือทำ ICSI วิธีไหนช่วยให้ตั้งครรภ์ได้ดีกว่า?


โดยทั่วไปแล้ว การทำ ICSI จะมีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ที่สูงกว่าการแก้หมัน เนื่องจากการทำ ICSI ไม่ต้องพึ่งพาท่อนำไข่ และแพทย์สามารถคัดเลือกไข่และอสุจิที่มีคุณภาพที่สุดมาใช้ในการปฏิสนธิได้ 

ในทางกลับกัน การแก้หมันจะเหมาะกับคู่รักที่ต้องการมีลูกตามธรรมชาติ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ท่อนำไข่จะไม่กลับมาทำงานได้ดีเท่าเดิม หรืออาจเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ ทั้งนี้อาจพิจารณาจากราคาของวิธีรักษาทั้งสองวิธีเพิ่มเติม

 

2. การทำ IUI หลังทำหมัน ช่วยให้มีลูกได้ไหม?


การทำ IUI (Intrauterine Insemination) หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก เพราะการทำ IUI ยังต้องอาศัยการทำงานของท่อนำไข่ในการลำเลียงอสุจิไปสู่ไข่ แต่เนื่องจากท่อนำไข่ถูกปิดกั้นไว้ การทำ IUI จึงไม่มีประโยชน์ในกรณีนี้ คู่รักจึงควรพิจารณาวิธีการที่ข้ามขั้นตอนการทำงานของท่อนำไข่ เช่น ICSI หรือ IVF

 

3. ผู้หญิงทําหมัน สามารถมีลูกได้ไหม ถ้าไม่ใช่วิธีแก้หมัน


ผู้หญิงหญิงทําหมันมีลูกได้ไหม ถ้าไม่ต้องการแก้หมัน ตอบได้เลยว่าสามารถทำได้ โดยใช้วิธีทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่าง ICSI หรือ IVF ได้ ซึ่งวิธีนี้จะนำไข่และอสุจิมาปฏิสนธิกันภายนอกร่างกาย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ท่อนำไข่ นอกจากนี้ยังสามารถลดปัญหาการมีลูกยากที่เกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ได้อีกด้วย

ทําหมันแล้วอยากมีลูก ปรึกษาที่ Beyond IVF

สำหรับคู่สมรสที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก กังวลว่าทำหมันแล้วท้องได้ไหม Beyond IVF พร้อมเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะมีข้อสงสัยเรื่องการตรวจร่างกาย การเตรียมพร้อมก่อนการมีลูก หรือต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการทำหัตถการ เช่น IVF หรือ ICSI ทางคลินิกของเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้ความตั้งใจของคุณเป็นจริง

วิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายที่ช่วยให้คู่รักได้เริ่มต้นสร้างครอบครัว หากต้องการมีลูก อย่ารอช้าที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณและคนที่คุณรัก

สนใจบริการของ Beyond IVF สามารถติดต่อได้ที่

Other success stories

Updates

EmbryoScope+ เทคโนโลยีเลี้ยงตัวอ่อนอัจฉริยะ เพิ่มโอกาสสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว

Read the story
Updates

วางแผนการมีลูกอย่างมั่นใจ กับ Beyond IVF

Read the story
Updates

กระตุ้นไข่ ห้ามกินอะไร? อาหารที่ควรเลี่ยงเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์

Read the story
Updates

ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) คืออะไร? เรื่องน่ารู้เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก

Read the story

The Biological Clock

This tool indicates:

  • Natural conception per month if you have no fertility issues
  • IVF success rate at the same age
  • When to seek help after months of unsuccessful attempts

If you are concerned at any stage – we recommend booking a doctor appointment or a free nurse consultation. The sooner you make a plan the better your chances in the long term.

When to seek advice early

  • If you have polycystic ovaries, endometriosis, or have been through a cancer diagnosis; we recommend you get in touch quickly so we can talk you through all your options and give you the greatest possible chance of success.
  • If you’re a single woman considering motherhood in the future; it’s best to approach us early and consider egg freezing as this can be an option for you while you have a higher ovarian reserve and healthier eggs.
Set your age and the months you’ve been trying to conceive
26
2
Your chance of having a baby per month for fertile couples
Your chance of having a baby per IVF cycle (if experiencing infertility)

Body Mass Index calculator

Being overweight or underweight can reduce fertility, so it is important to keep your body weight within the normal healthy range.

Body Mass Index (BMI) is an indication of your body weight and can be calculated by dividing weight by height. You should aim for a BMI of between 20 and 25, as this will optimise your chances of conception.

Woman’s BMI below 19

Even in these modern times, nature knows best. If a woman's BMI falls below 19, the body senses famine and ovulation is switched off to prevent the risk of having a baby with malnutrition. Excessive exercise can reduce body fat and increase muscle mass to a point where periods cease for the same reason. Risk of miscarriage is also increased in women with a low BMI.

Being underweight

If a woman's BMI falls below 19, the body senses famine and ovulation is switched off to prevent the risk of having a baby with malnutrition. Excessive exercise can reduce body fat and increase muscle mass to a point where periods cease for the same reason. Risk of miscarriage is also increased in women with a low BMI.

BMI’s greater than 30

This can reduce fertility by 50%. Pregnancy for women with a 30+ BMI is often associated with problems such as maternal diabetes, high blood pressure, big babies and increased risk of caesarean section.

Add your height and weight to calculate your BMI