Skip to content
Our blog / Updates
03 August 2025

มีลูกยาก คืออะไร? รักษาได้อย่างไร? หาคำตอบจากแพทย์ได้ที่นี่


03 August 2025
Updates

ภาวะการมีลูกยากหรือภาวะมีบุตรยาก (infertility) ปัญหาที่คู่รักหลายคู่กำลังเจออยู่พยายามมีบุตรมานานหลายปีไร้วี่แววการตั้งครรภ์ยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้ไม่รู้ต้องเริ่มการ รักษายังไงสามารถหาคำตอบได้เลยที่นี่

ปัญหาการมีลูกยาก (infertility)

ในปัจจุบันปัญหาเรื่องมีบุตรยากไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป สถานการณ์การมีบุตรยากของคนไทยในปัจจุบันพบมากถึง 12 ล้านคน แต่หลายคนยังไม่แน่ใจว่าปัญหาที่ตัวเองพบหรือภาวะที่ตัวเองกำลังประเชิญอยู่ถือว่ามีบุตรยากหรือไม่ มาดูรายละเอียดกันว่า การมีลูกยากนั้นคืออะไร

EP1: จะรู้ได้ยังไงว่ามีลูกยาก? Q&A “ถามตอบกับคุณหมอต้น”

https://youtube.com/watch?v=hfPq4YSY14c

มีลูกยาก หรือ ภาวะการมีบุตรยาก คืออะไร

การมีบุตรยาก (infertility) คือ ภาวะที่คู่สมรสมีเพศสัมพันธ์กันแล้วยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ในเวลาที่สมควร โดยหลักทางการแพทย์จะถือว่าผู้ที่อายุเกิน 35 ปี หรือผู้ที่ปล่อยตามธรรมชาติมากเกินกว่า 1 ปี (โดยไม่สนใจอายุ) แล้วยังไม่ตั้งครรภ์ถือว่าเข้าข่ายเป็นผู้มีบุตรยาก มีปัญหาเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ที่จุดใดจุดนึง ควรรีบปรึกษาแพทย์

สาเหตุหลักของการมีลูกยากเกิดจากอะไรได้บ้าง?

มีลูกยาก ทำไงดี


มีลูกยากเกิดจากอะไร? สาเหตุของการมีลูกยากเกิดขึ้นได้จากทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย โดยข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ในกรณีที่มีลูกยาก ส่วนใหญ่จะเกิดจากฝ่ายหญิงประมาณ 40% ฝ่ายชาย 25% อีก 20% มาจากทั้งสองฝ่าย และอีก 15% เป็นภาวะการมีบุตรยาก (Infertility) ที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ชัดเจน ดังนั้นคู่รักที่กำลังเผชิญปัญหานี้ ควรเข้ารับการประเมินจากแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขให้ตรงจุด

ปัญหาที่เกิดจากฝ่ายหญิง

ความสมบูรณ์ของระบบสืบพันธุ์ฝ่ายหญิงเป็นหัวใจสำคัญของการตั้งครรภ์ เพราะทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตกไข่ การปฏิสนธิไปจนถึงการฝังตัวของตัวอ่อนในมดลูก ล้วนต้องอาศัยการทำงานที่ปกติของอวัยวะต่าง ๆ

โดยปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลต่อการมีบุตรยาก สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ

  • เซลล์ไข่ (Oocyte) : คุณภาพและจำนวนของไข่จะลดลงตามวัย โดยเฉพาะเมื่ออายุเกิน 30 ปีขึ้นไป ทำให้เกิดภาวะไข่ตกผิดปกติ (Anovulation) เช่น ไข่ไม่สมบูรณ์, ไข่ฝ่อ หรือไข่ตกไม่สม่ำเสมอ ซึ่งส่งผลต่อโอกาสการปฏิสนธิ
  • มดลูกและท่อนำไข่ (Uterus and Fallopian Tubes) : หากท่อนำไข่อุดตัน หรือมดลูกมีซีสต์ เนื้องอก หรือความผิดปกติอื่น ๆ ตัวอ่อนจะไม่สามารถฝังตัวได้อย่างสมบูรณ์ การตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) หรือการฉีดสีเพื่อตรวจท่อนำไข่ (HSG) จะช่วยประเมินปัญหาเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

ปัญหาที่เกิดจากฝ่ายชาย

หลายคนอาจเข้าใจว่าปัญหาการมีลูกยาก ส่วนใหญ่จะเกิดจากฝ่ายหญิงเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วฝ่ายชายก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพของอสุจิเป็นปัญหาที่พบบ่อยหากมีลูกยาก เช่น อสุจิเคลื่อนไหวผิดปกติ, จำนวนอสุจิน้อย หรือรูปร่างอสุจิผิดปกติ ซึ่งล้วนส่งผลต่อความสามารถในการปฏิสนธิ 

การประเมินคุณภาพอสุจิทำได้โดยการตรวจอสุจิ ช่วยให้แพทย์เข้าใจสภาพของอสุจิ เพื่อกำหนดแนวทางการรักษาหรือแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม 

ภาวะมีลูกยากโดยไม่ทราบสาเหตุ

ภาวะมีลูกยากหรือมีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุ (Unexplained Infertility) พบได้ประมาณ 10% ในคู่สมรสที่เข้าข่ายภาวะมีบุตรยาก ที่ถึงแม้ว่าจะได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว แต่ไม่พบความผิดปกติใด ๆ เช่น ผลตรวจคุณภาพอสุจิอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีความผิดปกติของมดลูก หรือภาวะโพรงมดลูกเจริญผิดที่ก็ตาม 

สำหรับในกรณีนี้ แพทย์จะแนะนำให้เริ่มต้นด้วยวิธีฉีดเชื้อ (IUI) เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ หากยังไม่สำเร็จในระยะเวลาที่เหมาะสม จะพิจารณารักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์อย่างเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF/ICSI ซึ่งเหมาะกับคู่รักที่มีลูกยาก หรือถ้าอายุน้อยแต่มีลูกยากก็สามารถเข้ารับการประเมินและรักษาด้วยวิธีเหล่านี้ได้

วิธีการตรวจประเมินภาวะมีบุตรยาก ก่อนวางแผนเป็นคุณพ่อคุณแม่

ภาวะการมีบุตรยากการมีลูกยาก


เมื่อคู่สมรสพบว่ามีแนวโน้มมีลูกยาก หรือวางแผนมีลูกแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการตรวจประเมินอย่างละเอียด โดยแพทย์จะประเมินทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ดังนี้

  • การตรวจภาวะการมีบุตรยากฝ่ายหญิง

เริ่มจากการตรวจ Ultrasound ภายใน เพื่อประเมินสภาพมดลูก ผนังมดลูก และดูความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับรังไข่ เช่น ซีสต์หรือภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) ต่อด้วยการตรวจระดับฮอร์โมนในเลือด เช่น AMH (Anti-Mullerian Hormone) ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการผลิตไข่ และบอกปริมาณไข่ที่ยังหลงเหลืออยู่ในรังไข่ นอกจากนี้การตรวจฮอร์โมนยังสามารถใช้วิเคราะห์รอบเดือนและช่วยประเมินอาการไข่ตก ว่าอยู่ในช่วงใดได้

  • การตรวจภาวะการมีบุตรยากฝ่ายชาย

แพทย์จะทำ Semen Analysis หรือ ‘ตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ’ เพื่อดูว่าปริมาณอสุจิเพียงพอต่อการปฏิสนธิหรือไม่ รวมถึงตรวจคุณภาพการเคลื่อนไหว รูปร่าง และความแข็งแรงของอสุจิ หากพบความผิดปกติจะสามารถระบุสาเหตุของภาวะการมีบุตรยากได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ภาวะการมีบุตรยาก มีแนวทางการรักษาได้อย่างไรบ้าง

1. IUI


สำหรับผู้ที่มีลูกยากและอยากมีลูก วิธีนี้เป็นทางเลือกแรก ๆ ที่แพทย์จะแนะนำ เพราะใกล้เคียงกับการปฏิสนธิตามธรรมชาติ โดยแพทย์จะใช้วิธี Ovarian Stimulation กระตุ้นให้เซลล์ไข่มีขนาดที่เหมาะสมและเพิ่มจำนวน จากนั้นจะทำ Sperm Washing เพื่อคัดเลือกเฉพาะอสุจิที่แข็งแรง แล้วฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรง ช่วยเพิ่มโอกาสให้อสุจิเข้าถึงเซลล์ไข่ได้มากขึ้น โดยโอกาสประสบความสำเร็จของ IUI อยู่ที่ประมาณ 10–15% ต่อรอบการรักษา

 

2. IVF/ICSI เด็กหลอดแก้ว


สำหรับคนมีลูกยากที่มีปัญหาเรื้อรัง หรือใช้วิธี IUI แล้วไม่ได้ผล วิธีนี้ถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูง โดยแพทย์จะฉีดยาเพื่อกระตุ้นรังไข่ (Ovarian Stimulation) เป็นเวลา 10–12 วัน แล้วเจาะเก็บเซลล์ไข่ จากนั้นจะนำมาผสมกับอสุจิภายในห้องแล็บ 

หากใช้วิธี ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) จะมีการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดก่อนจะฉีดเข้าไปในไข่โดยตรงเพื่อการปฏิสนธิ หลังจากปฏิสนธิสำเร็จ แพทย์จะนำตัวอ่อนที่ได้ไปเลี้ยงต่อในห้องปฏิบัติการจนพัฒนาไปถึงระยะที่แข็งแรงสมบูรณ์ จากนั้นแพทย์จะย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก เพื่อให้เกิดการฝังตัวและตั้งครรภ์ต่อไป โดยโอกาสสำเร็จของ IVF/ICSI อยู่ที่ประมาณ 70–80% ขึ้นอยู่กับอายุและคุณภาพของไข่

 

3. ฝากไข่


การฝากไข่ (Egg Freezing) คือการเก็บรักษาไข่ที่มีคุณภาพในช่วงอายุที่เหมาะสม โดยใช้กระบวนการกระตุ้นไข่และเก็บออกมาทางช่องคลอด ก่อนนำไปแช่แข็งในอุณหภูมิต่ำมาก เพื่อใช้ในการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในอนาคต เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตรแต่ต้องการรักษาโอกาสการตั้งครรภ์ไว้ในอนาคต โดยไข่ที่แช่แข็งสามารถนำมาใช้ได้เมื่อพร้อมมีบุตร หรือเมื่อพร้อมมีลูกแต่มีข้อจำกัดด้านภาวะเจริญพันธุ์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาการมีลูกยาก

ผนังมดลูกหนา มีลูกยากจริงไหม?


เป็นความจริง เนื่องจากความหนาของผนังมดลูกที่เหมาะสมกับการฝังตัวของตัวอ่อนจะอยู่ที่ประมาณ 8–10 มิลลิเมตร หากหนาหรือน้อยกว่านี้อาจทำให้มีลูกยากได้ รวมถึงบางรายอาจพบภาวะพังผืดมดลูก ซึ่งส่งผลต่อการฝังตัวและการเจริญเติบโตของตัวอ่อน จึงควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

 

ช่องคลอดเป็นกรดจะทำให้มีลูกยากหรือไม่?


ช่องคลอดเป็นกรดอาจทำให้มีลูกยาก เนื่องจากมีความผิดปกติของช่องคลอด จึงควรตรวจ Thin Prep เพื่อประเมินความผิดปกติของเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกก่อนวางแผนตั้งครรภ์

 

กินยาคุมนานทำให้เกิดปัญหามีลูกยากจริงไหม?


ไม่เป็นความจริง การกินยาคุมกำเนิดต่อเนื่องเป็นเวลานานไม่ได้ทำให้มีลูกยาก เพราะหลังหยุดยาร่างกายจะกลับมาทำงานตามธรรมชาติในระยะเวลาไม่นาน

 

ไทรอยด์ทำให้มีลูกยากไหม?


ไทรอยด์อาจเป็นสาเหตุของการมีลูกยากได้ เนื่องจากภาวะผิดปกติของต่อมไทรอยด์ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ จึงควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางทั้งด้านไทรอยด์และมีบุตรยากอย่างใกล้ชิด และไม่ควรหยุดยาหรือรักษาด้วยตัวเอง

 

ฮอร์โมนเพศชายเยอะ เป็นสาเหตุของการมีลูกยากหรือไม่?


เป็นความจริง การมีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไปส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้มีลูกยาก เนื่องจากฮอร์โมนหลายชนิดมีความสำคัญในการมีบุตร

 

อายุเท่าไรควรไปตรวจภาวะผู้มีบุตรยาก?


แนะนำให้คู่สมรสที่อายุเกิน 35 ปี หรือพยายามตั้งครรภ์เกิน 1 ปีแล้วยังไม่สำเร็จ ควรเข้ารับการตรวจภาวะการมีบุตรยาก เพื่อหาสาเหตุและวางแผนรักษาอย่างเหมาะสม

 

ภาวะมีบุตรยากถือว่าเป็นกรรมพันธุ์หรือไม่?


ภาวะการมีบุตรยากอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ได้ในบางกรณี แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะถ่ายทอดภาวะนี้ไปยังลูกหลาน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและยีนที่เกี่ยวข้อง

เปลี่ยนภาวะ “มีลูกยาก” ให้เป็น “มีลูกได้” ด้วยการวางแผนที่ใช่สำหรับคุณ

เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุและเข้ารับการตรวจประเมินภาวะมีลูกยาก จะกลายเป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับคู่สมรสที่อยากมีลูกในการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนวางแผนตั้งครรภ์ หากพบว่ากำลังเผชิญภาวะนี้จะได้รับคำแนะนำและแนวทางรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ให้สำเร็จได้มากขึ้น

หากท่านใดสงสัยว่าอาจมีภาวะมีลูกยาก หรือต้องการวางแผนการตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม ที่ Beyond IVF เรามีบริการดูแลการวางแผนตั้งครรภ์ทุกขั้นตอน โดยทีมแพทย์ที่พร้อมให้คำแนะนำแผนในอนาคตให้เหมาะสมกับความต้องการของท่านมากที่สุด

Other success stories

Updates

กระตุ้นไข่ ห้ามกินอะไร? อาหารที่ควรเลี่ยงเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์

Read the story
Updates

ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) คืออะไร? เรื่องน่ารู้เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก

Read the story
Updates

Wanting to have a child: How to conceive and prepare for an easier pregnancy

Read the story
Updates

ICSI เทคโนโลยีเด็กหลอดแก้ว เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ และเหมาะกับใครบ้าง

Read the story

The Biological Clock

This tool indicates:

  • Natural conception per month if you have no fertility issues
  • IVF success rate at the same age
  • When to seek help after months of unsuccessful attempts

If you are concerned at any stage – we recommend booking a doctor appointment or a free nurse consultation. The sooner you make a plan the better your chances in the long term.

When to seek advice early

  • If you have polycystic ovaries, endometriosis, or have been through a cancer diagnosis; we recommend you get in touch quickly so we can talk you through all your options and give you the greatest possible chance of success.
  • If you’re a single woman considering motherhood in the future; it’s best to approach us early and consider egg freezing as this can be an option for you while you have a higher ovarian reserve and healthier eggs.
Set your age and the months you’ve been trying to conceive
26
2
Your chance of having a baby per month for fertile couples
Your chance of having a baby per IVF cycle (if experiencing infertility)

Body Mass Index calculator

Being overweight or underweight can reduce fertility, so it is important to keep your body weight within the normal healthy range.

Body Mass Index (BMI) is an indication of your body weight and can be calculated by dividing weight by height. You should aim for a BMI of between 20 and 25, as this will optimise your chances of conception.

Woman’s BMI below 19

Even in these modern times, nature knows best. If a woman's BMI falls below 19, the body senses famine and ovulation is switched off to prevent the risk of having a baby with malnutrition. Excessive exercise can reduce body fat and increase muscle mass to a point where periods cease for the same reason. Risk of miscarriage is also increased in women with a low BMI.

Being underweight

If a woman's BMI falls below 19, the body senses famine and ovulation is switched off to prevent the risk of having a baby with malnutrition. Excessive exercise can reduce body fat and increase muscle mass to a point where periods cease for the same reason. Risk of miscarriage is also increased in women with a low BMI.

BMI’s greater than 30

This can reduce fertility by 50%. Pregnancy for women with a 30+ BMI is often associated with problems such as maternal diabetes, high blood pressure, big babies and increased risk of caesarean section.

Add your height and weight to calculate your BMI