การวางแผนครอบครัวด้วยการทำหมัน อาจเป็นทางเลือกที่หลายคนตัดสินใจด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน เช่น มีบุตรเพียงพอแล้ว ป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความคิดที่อยากจะมีลูกอีกครั้งก็อาจเกิดขึ้นได้ คําถามที่ตามมาคือ ทําหมันแล้วอยากมีลูกจะเป็นไปได้หรือไม่ และถ้าทำได้จะต้องทำอย่างไร
สำหรับคู่สมรสที่เคยตัดสินใจทำหมันไปแล้ว แต่อยากมีลูกในภายหลัง ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะวิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก ทำให้เราสามารถหาวิธีที่จะช่วยให้คู่รักได้มีลูกตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการแก้หมัน หรือเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้มีบุตรยากที่ทันสมัย
บทความนี้ Beyond IVF จะมาให้ข้อมูลเชิงลึก เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่วางแผนเส้นทางการมีบุตร แม้จะผ่านการทำหมันเรียบร้อยแล้ว
การทําหมันในผู้หญิงทำอย่างไร และมีกี่วิธี?
ก่อนจะเรียนรู้วิธีมีบุตรหลังทำหมัน มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าการทำหมันฝ่ายหญิงมีอะไรบ้าง
การทําหมันหญิง (Female Sterilization หรือ Tubal Sterilization) เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบถาวรที่นิยมมากที่สุดวิธีหนึ่ง หลักการคือการปิดกั้นท่อนำไข่ (Fallopian Tube) ซึ่งเป็นเส้นทางที่อสุจิจะเดินทางไปผสมกับไข่ เมื่อท่อนำไข่ถูกปิดกั้นแล้ว จะไม่สามารถลำเลียงอสุจิไปสู่ไข่ จึงไม่เกิดการปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ขึ้น
การทำหมันหญิงสามารถทำได้สองวิธีหลัก ๆ ดังนี้
1. การทำหมันเปียก (Postpartrum)
การทำหมันเปียก คือ การทำหมันที่ทำในช่วงเวลาหลังคลอดบุตรทันที หรือภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังคลอด สาเหตุที่เรียกว่า "หมันเปียก" เนื่องจากอยู่ในช่วงเพิ่งคลอด นอกจากนี้มดลูกของฝ่ายหญิงยังมีขนาดใหญ่และอยู่สูง ทำให้สามารถเข้าถึงท่อนำไข่ได้ง่าย และมีเลือดมาเลี้ยงมาก
แพทย์จะทำการผ่าตัดเล็ก ๆ บริเวณใต้สะดือ (Subumbilical Incision) หรือเหนือหัวหน่าว (Suprapubic Incision) เพื่อเข้าไปผูกและตัดท่อนำไข่ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังช่วยให้คุณแม่ใช้เวลาพักฟื้นเร็วกว่าหมันแห้ง
2. การทำหมันแห้ง (Interval Sterilization)
การทำหมันแห้ง คือการทำหมันที่หลังผ่านการคลอดมานานแล้ว โดยรอหลังประจำเดือนเริ่มมากปกติ เนื่องจากมดลูกได้หดตัวกลับสู่ภาวะปกติ และอยู่ลึกลงไปในอุ้งเชิงกราน แพทย์จึงต้องใช้วิธีการผ่าตัดที่ต่างออกไป เช่น
- การผ่าตัดผ่านกล้องส่องช่องท้อง (Laparoscopy) : แพทย์จะทำการสอดกล้องขนาดเล็กผ่านแผลขนาดเล็กที่หน้าท้องเพื่อเข้าไปผูก ตัด หรือจี้ท่อนำไข่
- การผ่าตัดเปิดหน้าท้อง (Laparotomy) : เป็นการผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพื่อเข้าถึงท่อนำไข่
การทำหมันทั้งสองวิธีมีจุดประสงค์เดียวกันคือการคุมกำเนิดแบบถาวร แต่จะมีรายละเอียดและวิธีการผ่าตัดที่แตกต่างกันไปตามช่วงเวลาและความพร้อมของร่างกาย อย่างไรก็ตาม สำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก ไม่ว่าจะเป็นการทำหมันแบบใดก็ตาม วิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันก็สามารถช่วยเพิ่มความสำเร็จให้คู่สมรสสามารถกลับมามีบุตรได้
ทําหมันแล้วอยากมีลูก ทำได้ไหม มีวิธีใดบ้าง?
สำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก อาจมีข้อข้อสงสัยว่าหากทำหมันถาวรแล้วท้องได้ไหม ทางการแพทย์มีทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์หลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection)
ICSI เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัยและมีอัตราความสำเร็จสูง วิธีนี้เป็นการนำอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงตัวเดียวฉีดเข้าไปในไข่โดยตรงในห้องปฏิบัติการ หลังปฏิสนธิเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำตัวอ่อนที่ได้ย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกของมารดา
- ข้อดี :
- สามารถตั้งครรภ์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องท่อนำไข่ เพราะขั้นตอนการปฏิสนธิเกิดขึ้นภายนอกร่างกาย
- อัตราความสำเร็จสูง และสามารถเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ แม้ในคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากอื่น ๆ ร่วมด้วย
- สามารถคัดเลือกไข่และอสุจิที่มีคุณภาพดีที่สุดมาใช้ในการปฏิสนธิ
- ข้อเสีย :
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าวิธีอื่น
2. IVF (In Vitro Fertilization)
IVF หรือเรียกกันอีกชื่อว่าเด็กหลอดแก้ว เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ที่คล้ายคลึงกับ ICSI โดยการนำไข่และอสุจิมาผสมกันในห้องปฏิบัติการ แต่ต่างจาก ICSI ตรงที่การผสมจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในจานเพาะเลี้ยง ไม่มีการคัดเลือกอสุจิที่ดีที่สุด แต่ให้อสุจิหลายตัวแข่งกันเข้าไปผสมกับไข่เอง จากนั้นนำตัวอ่อนที่สภาพดีใส่เข้าไปในโพรงมดลูก
- ข้อดี :
- เหมาะสำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก เพราะไม่ต้องใช้ท่อนำไข่
- ช่วยคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมได้
- ราคาถูกกว่า ICSI
- ข้อเสีย :
- อัตราความสำเร็จต่ำกว่า ICSI เล็กน้อย
3. แก้หมัน (Tubal Reanastomosis)
การแก้หมันเป็นการผ่าตัดเพื่อเชื่อมต่อท่อนำไข่ที่ถูกตัดหรือผูกออกไปให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่จะแก้หมันได้ไหมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วิธีการทำหมันเดิม สุขภาพท่อนำไข่ และอายุของฝ่ายหญิง
- ข้อดี :
- หากการผ่าตัดสำเร็จ คู่รักสามารถมีลูกได้ตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์อื่น ๆ
- ข้อเสีย :
- โอกาสสำเร็จขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หากท่อนำไข่เสียหายมากอาจไม่สามารถแก้ไขได้
- ใช้เวลาพักฟื้นจากการผ่าตัดนาน และอาจมีความเสี่ยงจากการผ่าตัด
- เพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic Pregnancy)
สำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากจากการทำหมัน แต่อยากมีลูกอีกครั้ง อาจพิจารณาวิธีที่เหมาะสมกับตนเองจากวิธีที่กล่าวมา
พิจารณาวิธีรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะกับตัวเอง และช่วยให้มีลูกได้
สำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก การพิจารณาเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ควรเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตรยาก เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะการเลือกวิธีรักษาที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่ควรพิจารณาประกอบการตัดสินใจมีดังนี้
- อายุของฝ่ายหญิง : อายุเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของไข่ ยิ่งอายุมากขึ้น โอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะลดลง ปัจจุบันจึงมีเทคโนโลยีฝากไข่สำหรับผู้ที่ต้องการตั้งครรภ์ในอนาคต เพื่อรักษาไข่ที่มีคุณภาพดีเอาไว้
- สุขภาพของท่อนำไข่ : แพทย์จะประเมินสภาพท่อนำไข่ว่ายังสามารถเชื่อมต่อกันได้หรือไม่
- คุณภาพของอสุจิ : สำหรับฝ่ายชาย แพทย์จะดูคุณภาพของอสุจิด้วยว่ายังแข็งแรงหรือไม่
- โรคประจำตัว : หากคู่สมรสที่มีโรคทางพันธุกรรม แพทย์จะช่วยแนะนำวิธีที่ช่วยคัดกรองตัวอ่อนที่มีโอกาสได้รับโรคดังกล่าวจากพ่อแม่ได้
- ภาวะมีบุตรยากอื่น ๆ : คู่รักบางคู่อาจมีภาวะมีลูกยากร่วมด้วย เช่น ฝ่ายชายมีอสุจิไม่แข็งแรง หรือฝ่ายหญิงมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก การเลือกทำ ICSI หรือ IVF อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการแก้หมัน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทําหมันแล้วอยากมีลูก
สำหรับคู่รักที่ทําหมันแล้วอยากมีลูกอาจมีข้อสงสัยต่าง ๆ มากมาย เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาให้ดังนี้
1. แก้หมันหรือทำ ICSI วิธีไหนช่วยให้ตั้งครรภ์ได้ดีกว่า?
โดยทั่วไปแล้ว การทำ ICSI จะมีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ที่สูงกว่าการแก้หมัน เนื่องจากการทำ ICSI ไม่ต้องพึ่งพาท่อนำไข่ และแพทย์สามารถคัดเลือกไข่และอสุจิที่มีคุณภาพที่สุดมาใช้ในการปฏิสนธิได้
ในทางกลับกัน การแก้หมันจะเหมาะกับคู่รักที่ต้องการมีลูกตามธรรมชาติ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ท่อนำไข่จะไม่กลับมาทำงานได้ดีเท่าเดิม หรืออาจเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ ทั้งนี้อาจพิจารณาจากราคาของวิธีรักษาทั้งสองวิธีเพิ่มเติม
2. การทำ IUI หลังทำหมัน ช่วยให้มีลูกได้ไหม?
การทำ IUI (Intrauterine Insemination) หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก เพราะการทำ IUI ยังต้องอาศัยการทำงานของท่อนำไข่ในการลำเลียงอสุจิไปสู่ไข่ แต่เนื่องจากท่อนำไข่ถูกปิดกั้นไว้ การทำ IUI จึงไม่มีประโยชน์ในกรณีนี้ คู่รักจึงควรพิจารณาวิธีการที่ข้ามขั้นตอนการทำงานของท่อนำไข่ เช่น ICSI หรือ IVF
3. ผู้หญิงทําหมัน สามารถมีลูกได้ไหม ถ้าไม่ใช่วิธีแก้หมัน
ผู้หญิงหญิงทําหมันมีลูกได้ไหม ถ้าไม่ต้องการแก้หมัน ตอบได้เลยว่าสามารถทำได้ โดยใช้วิธีทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่าง ICSI หรือ IVF ได้ ซึ่งวิธีนี้จะนำไข่และอสุจิมาปฏิสนธิกันภายนอกร่างกาย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ท่อนำไข่ นอกจากนี้ยังสามารถลดปัญหาการมีลูกยากที่เกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ได้อีกด้วย
ทําหมันแล้วอยากมีลูก ปรึกษาที่ Beyond IVF
สำหรับคู่สมรสที่ทําหมันแล้วอยากมีลูก กังวลว่าทำหมันแล้วท้องได้ไหม Beyond IVF พร้อมเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะมีข้อสงสัยเรื่องการตรวจร่างกาย การเตรียมพร้อมก่อนการมีลูก หรือต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการทำหัตถการ เช่น IVF หรือ ICSI ทางคลินิกของเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้ความตั้งใจของคุณเป็นจริง
วิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายที่ช่วยให้คู่รักได้เริ่มต้นสร้างครอบครัว หากต้องการมีลูก อย่ารอช้าที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณและคนที่คุณรัก
สนใจบริการของ Beyond IVF สามารถติดต่อได้ที่