Skip to content

ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) คืออะไร? เรื่องน่ารู้เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก


25 เมษายน 2025
บทความ

IUI คืออะไร? ราคาเท่าไหร่? คนมีลูกยากควรรู้ เพิ่มโอกาสมีลูก

การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (Intrauterine Insemination: IUI)

การทำ IUI (Intra-Insemination) หรือการฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก จัดอยู่ในการรักษาที่หลายท่านให้ความสนใจและพูดถึงกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจาก IUI เป็นวิธีการรักษาที่ทำได้ง่าย และใกล้เคียงกับวิธีธรรมชาติ สำหรับคู่สมรสหลายคู่พึ่งเริ่มต้นศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำ IUI แต่อาจจะยังไม่เข้าใจกระบวนการรักษาหรือการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา ทุกท่านสามารถหาคำตอบไปด้วยกันจากบทความนี้

IUI การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก คืออะไร?

IUI (Intra-Uterine Insemination) คือ วิธีการคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรงที่สุดฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงในช่วงที่ไข่ตก โดยตัวอสุจิจะว่ายไปปฏิสนธิกับไข่ที่ท่อนำไข่เอง วิธีนี้จะคล้ายการมีเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติ แต่มีโอกาสสำเร็จมากกว่า 15% เหมาะกับคู่สมรสที่อายุไม่มาก และเซลล์สืบพันธ์สามารถปฏิสนธิกันเองได้

ขั้นตอนการทำ IUI EP 2 : การเตรียมตัวก่อนฉีด IUI

https://youtube.com/watch?v=O2uQfqjl-UU

การเตรียมตัวก่อนทำ IUI

วิธีการเตรียมตัวก่อนทำ IUI

เบื้องต้นหากสามีภรรยามีความสนใจเกี่ยวกับการรักษาด้วยวิธีการฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกต้องเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการซักประวัติและข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวมีบุตรยาก

คุณผู้ชาย

สำหรับคุณผู้ชายสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการรักษาแบบการฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกคือคุณภาพของอสุจิโดยแพทย์จะให้เตรียมงดหลั่งอสุจิ 5-7 (ไม่มากไม่น้อยกว่านี้) ก่อนถึงวันฉีดเชื้อระหว่างที่เป็นการเตรียมตัวคุณผู้ชายสามารถออกกำลังกายเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ เลือกรับประทานวิตามินอาหารเสริมช่วยบำรุงคุณภาพของอสุจิตามที่แพทย์แนะนำ

คุณผู้หญิง

กรณีของคุณผู้หญิงหลังจากแพทย์ตรวจร่างกายเพื่อประเมินแล้วระหว่างการเตรียมตัวเพื่อรอฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกควรเตรียมร่างกายให้พร้อมเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอหลีกเลี่ยงความเครียดเพื่อคงฮอร์โมนร่างกายให้สมดุล นอนลับพักผ่อนให้เพียงพอสามารถออกกำลังกายเบาๆได้ งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลดอฮอล์รวมไปถึงปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์

ขั้นตอนการทำ IUI

ขั้นตอนการทำ IUI (Intra-Insemination)

1.เข้าปรึกษาแพทย์

การเริ่มกระบวนการควรเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาเพื่อพูดคุยถึงปัญหารวมไปถึงเข้าตรวจร่างกายเพื่อประเมินถึงความรุนแรงของปัญหาเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยากหลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มวางแผนและแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนเริ่มกระบวนการ

2. เริ่มกระตุ้นไข่

จะเริ่มกระตุ้นในวันที่ 2-3 ของประจำเดือนประมาณ 5-10 วันโดยแพทย์จะจ่ายยากระตุ้นแบบรับประทานจำกัดโดสของยาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

3.Ultrasound

หลังจากกระตุ้นไข่แพทย์จะนัดเข้ามาเพื่อตรวจเช็คจำนวนฟองไข่รวมไปถึงความพร้อมของไข่และแพทย์จะฉีดยาให้ไข่ตกจากนั้นอีก 24-40 ชั่วโมงแพทย์จะนัดเข้ามาฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกอีกครั้งในวันที่ไข่ตก

4.ขั้นตอนการเตรียมอสุจิ

หลังจาก 24-40 ชั่วโมง วันเดียวกับวันที่คุณผู้หญิงจะฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก คุณผู้ชายจะเข้าเก็บเชื้ออสุจิ และนักวิทย์จะทำการนำไปปั่นภายในห้องปฏิบัติการเพื่อคัดแยกเชื้อที่มีคุณภาพมากที่สุด

5.ขั้นตอนการฉีดเชื้อ

แพทย์จะฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกโดยใช้สายยางที่มีขนาดเล็กมากๆสอดผ่านเข้าช่องคลอดของคุณผู้หญิงเพื่อให้เข้าไปใกล้กับรังไข่มากที่สุดหลังจากนั้นจะให้นอนพักจิดจามอาการประมาณ 1 ชั่วโมงและสามารถกลับบ้านได้โดยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

6.ตรวจการตั้งครรภ์

หลังจากแพทย์ฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกประมาณ 2-3 สัปดาห์จึงเริ่มทำการตรวจครรภ์ได้แนะนำไม่ควรรีบตรวจก่อนครบเนื่องจากอาจทำให้คุณผู้หญิงเกิดความกังวลใจหรือเครียดอาจจะส่งผลกระทบไปทำให้ฮอร์โมนผิดปกติได้

การดูแลตัวเองหลังทำ IUI

หลังจากที่รับการรักษามีบุตรยากแบบการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกแล้ว แพทย์จะแนะนำให้นอนพักที่สถานพยาบาล 30 – 60 นาที แล้วสามารถกลับบ้านได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องหยุดงาน หรือนอนติดเตียง สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเพียงแค่งดออกกำลังกายหนัก เดินทางไกล และงดความเครียดที่ส่งผลต่อฮอร์โมน

ทำ IUI เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่เริ่มเข้าสู่การรักษาผู้มีบุตรยาก

  • ฝ่ายหญิงอายุไม่เกิน 35 ปี

  • มีภาวะร่างกายสมบูรณ์ไม่ได้มีโรคร้ายแรง

  • ท่อนำไข่ไม่ตีบตัน

  • ฝ่ายชายมีอสุจิที่ตรงตามเกณฑ์มาตรฐาน

การทำ IUI ไม่เหมาะกับใคร?

  • ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี เพราะไข่มีอายุมาก ส่งผลให้การรักษาด้วยวิธีนี้มีความสำเร็จน้อยลง

  • ท่อนำไข่หรือปีกมดลูก มีปัญหาและไม่สามารถใช้การได้

  • ผู้ที่มีภาวะเยื้อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

  • ผู้ชายมีอสุจิน้อย ตัวอสุจิเคลื่อนที่ช้า หรือไม่สามารถหลั่งน้ำเชื้อได้

การทำ IUI ฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก ราคาเท่าไหร่

การทำ IUI อาจจะมีราคาที่ไม่แพงมากนัก ซึ่งที่ Beyond IVF การทำ IUI ราคาจะอยู่ที่ครั้งละ 20,000 บาท ราคานี้ได้อะไรบ้าง

  • ค่ายากระตุ้นไข่แบบรับประทานจํานวนตามแพทย์สั่ง

  • ค่ายาฉีดเร่งไข่สุก

  • ค่า Ultrasound 2 ครั้งช่วงติดตามการกระตุ้นไข่

  • ค่าเก็บเชื้อและเตรียมอสุจิ- ค่าฉีดเชื้ออสุจิเข้าสูโ่ พรงมดลูก

  • ค่าแพทย์ตลอดการรักษา

  • ค่าพยาบาลและค่านักวิทยาศาสตร์เฉพาะทาง

  • ค่าเครื่องมือและอุปกรณ์

Q&A รวมคำถามที่คนสงสัยเกี่ยวกับการทำ IUI ฉีดเชื้ออสุเข้าสู่โพรงมดลูก

การทำ IUI สามารถเลือกเพศลูกได้ไหม?

การรักษาโดยการทำ IUI ไม่สามารถเลือกเพศลูกได้แบบ 100% เพราะการรักษาแบบ IUI คล้ายกับการมีเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติซึ่งหากกล่าวแล้วก็เหมือนเกิดจากตามธรรมชาติเลย แต่มีบางความเชื่อที่กล่าวว่า อสุจิที่หัวโต จะมักเป็นเพศชายซึงหากเลือกตัวที่หัวใหญ่หรือคุณผู้ชายที่มีตัวที่หัวใหญ่เยอะก็อาจมีบุตรเพศชายได้มากกว่า แต่ทั้งหมดล้วนเป็นแค่ความเชื่อ เพศมักสุ่มเกิดโดยมีโอกาส 50/50 เท่ากัน

อ่านเพิ่มเติม : รักษาด้วยวิธี IUI สามารถเลือกเพศได้ไหม?

การทำ IUI มีลูกแฝดได้ไหม?

การรักษาผู้มีบุตรยาสามารถกโดยการทำ IUI มีโอกาสเกิดลูกแฝดได้หากอสุจิและไข่ปฏิสนธิกันมากกว่า 1 ใบ แต่โอกาสที่จะเกิดได้น้อยมากเพราะแพทย์มักไม่อยากให้ไข่จำนวนเยอะมากไป เพราะหากปฏิสนธิกันหลายฟองกลายเป็นครรภ์ปฝดสอง หรือแฝดสามจะเกิดปัญหาตามมาได้ เช่น ภาวะแท้งคุกคาม หรือเด็กคลอดก่อนกำหนดได้

อ่านเพิ่มเติม : รักษาด้วยวิธี IUI มีลูกแฝดได้ไหม?

การรักษาแบบ IUI สามารถทำได้กี่ครั้ง?

ส่วนมากแพทย์จะแนะนำให้ลองที่ 3 ครั้ง หาก 3 ครั้งแล้วยังตั้งครรภ์ไม่สำเร็จควรตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม หรือขยับการรักษาไปเป็น เด็กหลอดแก้วแทนเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จที่มากกว่า

การทำ IUI มีโอกาสสำเร็จมากน้อยแค่ไหน

การทำ IUI ถือเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เพราะเป็นวิธีที่รักษาง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยากซับซ้อน และมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก แต่โอกาสสำเร็จก็ไม่มากนักประมาณ 10-15% ต่อครั้ง อาจจะสูงกว่าวิธีธรรมชาติเล็กน้อย ซึ่งโดยปกติ วิธีนี้มักจะประสบผลสำเร็จภายใน 4-6 รอบเดือนของการรักษา แต่ถ้ายังไม่สำเร็จควรจะประเมินหาสาเหตุซ้ำ หรือพิจารณาวิธีการรักษาวิธีต่อไป

ทํา iui กี่วัน รู้ผล?

หลังจากรักษาแบบ IUI การฉีดเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูก หลังจากทำแล้วแพทย์แนะนำว่าสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ 2-3 สัปดาห์ หรือคือ หลังทำ IUI 14 วัน ส่วนท่านใดที่อยากทราบผลการตั้งครรภ์เร็วกว่านั้นสามารถไปที่สถานพยาบาลใกล้บ้านหรือคลินิกที่รักษาเพื่อขอตรวจค่า beta-HCG ( Human Chorionic Gonadotropin )เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ได้

หากท่านไหนมีข้อสงสัยหรือต้องการนัดคุณหมอเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาปัญหามีบุตรยาก สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @beyondivf

อายุเกิน 35 ปี ทำ IUI ได้ไหม?

หากคู่สมรสที่อายุเกิน 35 แล้วยังมีความต้องการที่จะรักษามีบุตรยากด้วยวิธี IUI ยังสามารถทำได้ หากแพทย์แนะนำ เพราะจริงๆแล้วการรักษามีบุตรยากควรเป็นไปตามความเหมาะสมในระดับความรุนแรงของภาวะการมีบุตรยากมากกว่าจะคำนึงถึงเรื่องอายุ

ทำหมันแล้ว ทำ IUI ได้หรือไม่

หากคู่สมรสนั้นได้ผ่านการทำหมันแล้วไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย ก็ไม่สามารถรักษามีบุตรยากด้วยวิธี IUI ได้อีก

สรุป

การทำ IUI หรือการฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกเป็นการรักษามีบุตรยากที่คู่สมรสหลายๆคู่มีความสนใจ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้แต่ทั้งนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่างที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการรักษาเช่น คุณผู้หญิงอายุยังน้อย คุณภาพของไข่สมบูรณ์มดลูกไม่มีความผิดปกติหรือพบปัญหาที่รุนแรงรือในฝ่ายคุณผู้ชายมีคุณภาพของสเปิร์มที่ดี รูปร่างแข็งแรง เป็นต้นรวมไปถึงความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำให้การรักษาสำเร็จ

หากท่านใดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line@ : @beyondivf


เรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ

บทความ

มีลูกยาก คืออะไร? รักษาได้อย่างไร? หาคำตอบจากแพทย์ได้ที่นี่

Read the story
บทความ

Infertility: Causes, Symptoms, Tests, and Treatments

Read the story
บทความ

เด็กหลอดแก้ว IVF คืออะไร? ต่างกับ อิ๊กซี่ ICSI ไหม ต้องรู้อะไรอีกบ้างก่อนทำ

Read the story
บทความ

ทำ ICSI เด็กหลอดแก้วตรวจโครโมโซม NGS ดีไหม?

Read the story

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ