การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) เป็นทางเลือกในการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเป็นวิธีที่เรียบง่าย และมีค่าใช้จ่ายไม่สูง IUI คือการฉีดอสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรงเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ในคู่รักที่อายุยังไม่มาก และมีลักษณะใกล้เคียงกับการตั้งครรธรรมชาติ
IUI คืออะไร?
การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (Intrauterine insemination: IUI) คือการฉีดอสุจิที่ผ่านการคัดเลือกอย่างดีแล้วเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง โดยใช้หลอดพลาสติกขนาดเล็กสอดผ่านปากมดลูกไปยังโพรงมดลูก และทำในช่วงเวลาที่กำลังตกไข่หรือใกล้ตกไข่ เพื่อให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ในท่อนำไข่
สำหรับ IUI อสุจิต้องมีสุขภาพดี และต้องมีจำนวนอย่างน้อย 1 ล้านตัวหลังการคัดกรอง หากมีจำนวนน้อยกว่านี้ โอกาสในการตั้งครรภ์จะลดลงอย่างมาก
IUI ทำงานอย่างไร?
ก่อนการฉีดเชื้อ แพทย์อาจให้ยากระตุ้นการตกไข่ เพศชาย (คู่สมรสหรือผู้บริจาคอสุจิ) จะต้องเก็บตัวอย่างน้ำอสุจิ ซึ่งจะผ่านกระบวนการ "ล้างอสุจิ" (Sperm Washing) เพื่อคัดเลือกเฉพาะอสุจิที่แข็งแรงที่สุด
จากนั้นแพทย์จะทำการฉีดอสุจิเข้าไปในโพรงมดลูก หากอสุจิสามารถปฏิสนธิกับไข่ และไข่ฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ก็จะเกิดการตั้งครรภ์
IUI เป็นกระบวนการที่เรียบง่าย ใช้เทคโนโลยีไม่ซับซ้อน และมีค่าใช้จ่ายต่ำเมื่อเทียบกับวิธีรักษาภาวะมีบุตรยากแบบอื่น แม้จะเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ แต่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล
ความแตกต่างระหว่าง IUI และ IVF
การรักษาด้วย IUI
การผสมเทียมในโพรงมดลูก (IUI) เป็นการฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกโดยใช้เครื่องมือเปิดปากมดลูก (speculum)
การรักษาด้วย IVF
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นการเจาะไข่ออกจากรังไข่ด้วยเข็มผ่านทางช่องคลอด และนำไข่ออกมาปฏิสนธินอกร่างกาย
ขั้นตอนการทำ IUI
ขั้นตอนที่ 1: ปรึกษาแพทย์
พบแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา (ควรพบแพทย์ก่อนมีประจำเดือน)
ขั้นตอนที่ 2: กระตุ้นการตกไข่
รับประทานหรือฉีดยากระตุ้นไข่ในวันที่ 2 หรือ 3 ของรอบเดือน
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจอัลตราซาวด์
ตรวจสอบจำนวนและขนาดของไข่ หากไข่โตพอเหมาะ จะฉีดยากระตุ้นไข่ตก (Trigger Shot) และทำ IUI ภายใน 24–40 ชั่วโมง
ขั้นตอนที่ 4: เตรียมอสุจิ
ฝ่ายชายเก็บตัวอย่างอสุจิ แล้วนำไปล้างและคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุด
ขั้นตอนที่ 5: ฉีดเชื้ออสุจิ
แพทย์จะฉีดอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกในวันเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 6: ตรวจการตั้งครรภ์
รอประมาณ 2–3 สัปดาห์เพื่อทดสอบการตั้งครรภ์
การดูแลหลังทำ IUI
คำแนะนำหลังทำ IUI:
- นอนพักที่คลินิกอย่างน้อย 30 นาที
- สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้
- งดออกกำลังกายหนัก
- สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
หากมีอาการท้องอืดหรือบวมหลังการกระตุ้นไข่ แนะนำให้รับประทานไข่ขาววันละ 8 ฟองเพื่อลดอาการดังกล่าว
อัตราความสำเร็จของ IUI
ความสำเร็จของ IUI ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น:
- อายุของฝ่ายหญิง
- จำนวนไข่ที่มีคุณภาพ
- ความเข้มข้นของเชื้ออสุจิที่ฉีดเข้าโพรงมดลูก
- ความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกในวันฉีดเชื้อ
แพทย์จะควบคุมปัจจัยเหล่านี้เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จให้สูงที่สุด โดยทั่วไป IUI เป็นวิธีที่ปลอดภัย ราคาย่อมเยา และได้รับความนิยมมากในการช่วยให้คู่รักมีลูก
The risk of IUI treatment
ความเสี่ยงจากการทำ IUI มีน้อยมาก โดยทั่วไปเป็นอาการที่ไม่รุนแรง เช่น:
- การติดเชื้อในโพรงมดลูกจากกระบวนการทำ IUI ซึ่งพบได้น้อยมาก
- การระคายเคืองบริเวณช่องคลอดและปากมดลูกขณะฉีดเชื้อ อาจทำให้มีอาการเจ็บหรือเลือดออกเล็กน้อย แต่ไม่กระทบต่อการตั้งครรภ์
- การตั้งครรภ์แฝด เนื่องจากการกระตุ้นรังไข่อาจทำให้มีไข่มากกว่าหนึ่งใบ การตั้งครรภ์แฝดถือเป็นการตั้งครรภ์ความเสี่ยงสูง และมักคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักน้อยกว่าทารกเดี่ยว
ค่ารักษา IUI เท่าไหร่?
IUI ถือเป็นทางเลือกที่ราคาย่อมเยา โดยที่ Beyond IVF ค่ารักษาหนึ่งรอบของการฉีดเชื้ออยู่ที่ 30,000 บาท ซึ่งรวมถึง:
- ยากระตุ้นไข่ตามแพทย์สั่ง
- ยาฉีดกระตุ้นไข่ตก
- การอัลตราซาวด์ 2 ครั้งเพื่อติดตามไข่
- การเก็บและเตรียมอสุจิ รวมถึงขั้นตอนฉีดเชื้อ
- ค่าบริการแพทย์ตลอดกระบวนการ
- ค่าบริการห้องปฏิบัติการและทางการแพทย์ทั้งหมด
- ค่าบริการเครื่องมือแพทย์ทั้งหมด
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการรักษาภาวะมีบุตรยากได้พัฒนาไปไกล มีตัวเลือกมากมายที่สามารถช่วยให้ครอบครัวมีลูกได้ เมื่อเลือกสถานที่ทำ IUI ควรคำนึงถึงความสะอาด ความปลอดภัย และความเชี่ยวชาญของแพทย์
ที่ Beyond IVF เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก และสูตินรีแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่รับรองความรู้และประสบการณ์อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ คลินิกของเรายังมีมาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทีมงานคุณภาพที่คอยให้คำแนะนำ และเทคโนโลยีระดับโลกเทียบเท่ากับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เรามีบริการรักษาภาวะมีบุตรยากหลายรูปแบบ เช่น การฝากไข่ การทำ IVF/ICSI
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ IUI
การรักษา IUI เจ็บหรือไม่?
การทำ IUI จะใช้ท่อขนาดเล็กที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว สอดเข้าไปในโพรงมดลูกผ่านทางปากมดลูก ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และไม่มีความเจ็บปวด คุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันทีโดยไม่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
IUI ทำให้เกิดลูกแฝดได้ไหม?
IUI อาจทำให้ตั้งครรภ์แฝดได้ หากมีการปฏิสนธิมากกว่าหนึ่งไข่ แต่พบไม่บ่อยนัก เนื่องจากแพทย์มักควบคุมจำนวนไข่ที่สร้างออกมา การตั้งครรภ์แฝดจัดเป็นการตั้งครรภ์ความเสี่ยงสูง และอาจทำให้เกิดภาวะแท้งคุกคาม หรือคลอดก่อนกำหนดได้
สาเหตุที่ทำให้ IUI ไม่สำเร็จคืออะไร?
สาเหตุที่อาจทำให้ IUI ไม่สำเร็จ ได้แก่:
- อสุจิผิดปกติ (จำนวน อัตราการเคลื่อนไหว หรือคุณภาพต่ำ)
- ปัญหาท่อนำไข่ เช่น มีเพียงท่อนำไข่ข้างเดียวทำงาน เพราะไข่อาจไม่ตกผ่านท่อนำไข่ข้างนั้นในแต่ละเดือน
- อายุของฝ่ายหญิงมากกว่า 40 ปี
- ปัญหาที่ปากมดลูก เช่น ปากมดลูกแคบ หรือเคยผ่าตัดบริเวณปากมดลูก ทำให้ฉีดอสุจิได้ยาก
- ปัญหาในโพรงมดลูก เช่น เนื้องอกขนาดใหญ่ หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่รุนแรง
- เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมกับการฝังตัวของตัวอ่อน
สามารถทำ IUI ได้กี่ครั้ง?
แนะนำให้ทำ IUI ไม่เกิน 3 ครั้ง หากไม่สำเร็จใน 3 รอบ แพทย์จะตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก และอาจแนะนำให้ทำ IVF หรือ ICSI ซึ่งมีอัตราสำเร็จสูงกว่าในบางกรณี
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษา IUI
IUI เป็นวิธีรักษาภาวะมีบุตรยากที่ได้รับความนิยม และถือเป็นก้าวแรกของการรักษาแบบเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ มีภาวะแทรกซ้อนน้อย ประสบความสำเร็จได้ดีในกลุ่มผู้ที่เหมาะสม และมีราคาย่อมเยากว่า IVF และ ICSI อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของ IUI เช่น อายุของคู่สมรส คุณภาพของไข่และอสุจิ และเยื่อบุโพรงมดลูกในวันฉีดเชื้อ
ดังนั้นจึงควรได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เหมาะสม หากคุณมีคำถามหรือสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทาง Line ที่ @beyondivf