Skip to content

มูกไข่ตก พร้อมท้องมีลูกหรือไม่ สังเกตุดูได้ด้วยตัวเอง


29 มีนาคม 2025
บทความ

สำหรับคนที่อยากมีลูกด้วยวิธีธรรมชาตินอกจากจะนับวันตกไข่แล้วยังสามารถสังเกตุจากมูกใสๆที่จะไหลออกมาจากช่องคลอดในช่วงที่ไข่ตก ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าตอนนี้อยู่ในช่วงที่ไข่ตกแล้ว และถ้ามีเพศสัมพันธุ์ในช่วงนี้ก็จะเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้

มูกช่องคลอดหรือมูกไข่ตก คืออะไร

มูก หรือที่หลายๆคนเรียกว่า ตกขาว มูกจะมีลักษณะเป็นของเหลวมีความเหนียวข้น มักพบได้กับผู้หญิงที่อยู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ แต่ในบางคนมูกจะออกมาในรูปแบบเป็นก้อน แต่จะไม่มีสีไม่มีกลิ่น มูกจะมีคุณสมบัติในการช่วยให้อสุจิเคลื่อนที่ไปที่ท่อนำเพื่อไปผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเมื่อคุณผู้หญิงสังเกตุว่ามีมูกไหลออกมาแสดงว่าช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ไข่ตก และการสังเกตุมูกไข่ตก ยังเป็นหนึ่งในอาการไข่ตก ที่สามารถดูได้ด้วยตัวเอง

วิธีการตรวจประเมินภาวะมีบุตรยาก

เข้ามาปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์จะตรวจประเมิน ดังนี้

การตรวจประเมินภาวะมีบุตรยากฝ่ายหญิง

  • การตรวจ Ultrasound ภายในเพื่อเช็ค ผนังมดลูก หรือความผิดปกติของมดลูกและรังไข่
  • ตรวจฮอร์โมน ยกตัวอย่างเช่น ตรวจฮอร์โมน AMH หรือ Anti-Müllerian hormone คือ ฮอร์โมนที่ถูกสร้างมาจากใข่ใบเล็กๆ ในรังไข่ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการทำงานของรังไข่หรือบอกจำนวนไข่ที่เหลืออยู่ของผู้หญิงในขณะนั้น (การตรวจ AMH คือการเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน AMH ซึ่งระดับเลือดของฮอร์โมนนี้สามารถบ่งบอกว่ามีจำนวนไข่เหลืออยู่มากน้อยเพียงใด การตรวจ AMH ถือเป็นวิธีการชี้วัดปริมาณไข่ที่มีอยู่ในรังไข่ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน

มูกไข่ตกจะเกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมน Estrogen ในช่วงใกล้ไข่ตกฮอร์โมน Estrogen จะมีปริมาณที่สูงขึ้น ตัวฮอร์โมน Estrogen จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของมูกที่ผลิตมาจากปากมดลูก ทำให้มูกมีลักษณะที่เปลี่ยนไปขึ้นอยุ่กับปริมาณของฮอร์โมนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการสร้างมูก โดยลักษณะของมูกจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

  • มูกในช่วงหลังมีประจำเดือน จะมีลักษณะแห้งๆ
  • มูกในช่วงก่อนไข่ตก จะมีลักษณะคล้ายครีมคล้ายๆโลชั่น มีความข้นเล็กน้อย
  • มูกในวันไข่ตก มูกจะมีลูกลักษณะขาวใสคล้ายไข่ขาวดิบ มีความลื่นแล้วยืดหยุ่นได้ดีไม่ขาดออกจากกัน จะมีความชุ่มชื่้นสูง และยังมีคุณสมบัติที่ช่วยให้อสุจิเคลื่อนที่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • มูกในช่วงหลังวันไข่ตก จะมีลักษณะเหนียวข้น

อาการมูกไข่ตก ที่ควรเฝ้าระวัง

โดยปกติแล้วมูกไข่ตกจะมีลักษณะเป็นสีขาวใส ไม่มีกลิ่นเหม็น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มูกไข่ตกมีกลิ่นเหม็น มูกเป็นก้อนหนาๆ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่ามีความผิดปกติในร่างกาย มูกไข่ตกผิดปกติดูตามสีดังนี้

  • สีเทา เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จากเพศสัมพันธ์ การสวนช่องคลอด หรือการรับยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง มักจะมีอาการอื่นร่วมด้วย คือ อาการคันที่ช่องคลอด มีกลิ่นเหม็น
  • สีขาวข้นหรือมีสีเหลืองขาว พร้อมกลิ่นเหม็นอับ คันบริเวณอวัยวะเพศ อาจเป็นร่วมกับอาการปัสสาวะขัด มักมาจากการติดเชื้อราในช่องคลอด
  • สีเหลือง พร้อมกลิ่นคาวและอาการคัน ปัสสาวะขัด อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น จากโรคหนองใน หรือ ติดเชื้อรา เชื้อไวรัส
  • สีเขียวหรือเหลืองปนเขียว มีกลิ่นคาวและอาการคัน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หรือหลังการมีเพศสัมพันธ์
  • มีเลือดปนหรือมีสีน้ำตาล อาจเกิดจากประจำเดือนตกค้าง หรือเกิดจากการติดเชื้อที่ปากมดลูก เลือดออกจากการตกไข่
  • แบบมีฟอง จะมีอาการอาการระคายเคือง คัน อาการเกิดจากการติดเชื้อทริโคโมนาสในช่องคลอด มาจากการมีเพศสัมพันธ์
  • สีชมพูหรือสีชมพูจางๆ อาจเป็นสัญญาณของการจะมีรอบประจำเดือน หรือเกิดจากการลอกหลุดของเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งมักพบหลังคลอด

คำถามที่คนมักถามเกี่ยวกับมูกไข่ตก

มีมูกไข่ตก มีโอกาสท้องไหม

มูกไข่ตกจะบ่งบอกได้ว่าเรายังมีร่างกายที่สมบูรณ์ มีภาวะเหมาะกับการสืบพันธุ์แต่ไม่ได้เฟิร์มว่าจะท้อง 100% หรือใครที่ไม่มีคือไม่ดี การมีมูกไข่ตกเป็นส่วนหนึ่งของอาการที่ทำให้ทราบว่าเป็นช่วงที่ไข่ตกเท่านั้น

สรุป

มูกไข่ตกพร้อมท้องมีลูกหรือไม่ มูกไข่ตกจะเกิดขึ้นก่อนช่วงก่อนวันที่ไข่ตก 1-2 วัน เพื่อเป็นสัญญาณให้ทราบว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะกับการมีเพศสัมพันธุ์ แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถคอนเฟิร์มว่ามันคือวันไข่ตกอย่างแน่นอน หรือจะสามารถตั้งครรภ์ 100% ได้แต่ควนคำนึงถึงความผิดปกกติของมูกไข่ตกหรือตกขาวที่ออกมามากกว่าว่ามีสีที่ปกติหรือไม่ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามหากมูกที่ไหลออกมามีความผิดปกติ ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาการทั้งหมอนี้อาจเป็นความผิดปกติมาจากภายใน หากพบอาการผิดปกติควรรีบมาปรึกษาแพทย์จะดีกว่า และทำการตรวจหาสาเหตุเพื่อวางแผนการรักษาให้ต่อไป

เรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ

บทความ

มีลูกยาก คืออะไร? รักษาได้อย่างไร? หาคำตอบจากแพทย์ได้ที่นี่

Read the story
บทความ

ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) คืออะไร? เรื่องน่ารู้เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก

Read the story
บทความ

Infertility: Causes, Symptoms, Tests, and Treatments

Read the story
บทความ

เด็กหลอดแก้ว IVF คืออะไร? ต่างกับ อิ๊กซี่ ICSI ไหม ต้องรู้อะไรอีกบ้างก่อนทำ

Read the story

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ