Skip to content

Aricept: ยารักษาโรคอัลไซเมอร์ที่คุณควรรู้จัก


31 มีนาคม 2025
บทความ

Aricept: ยารักษาโรคอัลไซเมอร์

Aricept คืออะไร?

Aricept หรือชื่อทางเคมีว่า Donepezil เป็นยาที่มักจะถูกสั่งจ่ายเพื่อรักษาอาการของโรคอัลไซเมอร์ ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่า cholinesterase inhibitors ซึ่งทำงานโดยการเพิ่มระดับสารสื่อประสาทในสมองที่เรียกว่า acetylcholine

การทำงานของ Aricept

Aricept ช่วยชะลอการเสื่อมของความจำและการรับรู้ในผู้ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ โดยการยับยั้งเอนไซม์ที่ทำลาย acetylcholine ทำให้สารสื่อประสาทนี้ยังคงอยู่ในสมองนานขึ้นและช่วยให้การทำงานของสมองดีขึ้น

ประโยชน์ของการใช้ Aricept

  • ช่วยปรับปรุงการรับรู้และความจำ
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจวัตรประจำวัน
  • ลดอาการของโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง

วิธีการใช้ Aricept

การใช้ Aricept ควรเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์ โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มต้นที่ขนาด 5 มิลลิกรัมต่อวัน และแพทย์อาจปรับขนาดยาเป็น 10 มิลลิกรัมหลังจากผ่านไป 4-6 สัปดาห์


คำแนะนำการใช้ยา

  • ควรรับประทานยาพร้อมกับน้ำหนึ่งแก้วเต็ม
  • สามารถรับประทานยาได้ทั้งก่อนหรือหลังอาหาร
  • ไม่ควรหยุดยาหรือปรับขนาดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

แม้ว่า Aricept จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงที่ผู้ใช้ควรทราบ เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว เวียนศีรษะ และปัญหาทางเดินอาหาร หากมีอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ทันที

ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ

ดร.สมชาย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท กล่าวว่า “Aricept เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการของโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง แต่ควรใช้โดยการกำกับดูแลของแพทย์เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์”

การซื้อ Aricept

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ซื้อ Aricept เราแนะนำให้สั่งซื้อผ่าน เว็บไซต์ของเรา ซึ่งมีผลิตภัณฑ์คุณภาพและบริการที่น่าเชื่อถือ


โปรโมชั่นพิเศษ

ขณะนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ รับส่วนลด 10% เมื่อสั่งซื้อ Aricept ผ่าน เว็บไซต์ของเรา


ทีมแพทย์และบทความที่เกี่ยวข้อง

เยี่ยมชม หน้าเว็บไซต์ของเรา สำหรับบทความและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงคำแนะนำจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


สัมนาและเคสสำเร็จ

เข้าร่วมสัมนาออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญด้านโรคอัลไซเมอร์และเรียนรู้จากเคสสำเร็จของผู้ป่วยที่ใช้ Aricept เพื่อรับประสบการณ์และข้อมูลที่เป็นประโยชน์

เรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ

บทความ

มีลูกยาก คืออะไร? รักษาได้อย่างไร? หาคำตอบจากแพทย์ได้ที่นี่

Read the story
บทความ

ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) คืออะไร? เรื่องน่ารู้เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก

Read the story
บทความ

Infertility: Causes, Symptoms, Tests, and Treatments

Read the story
บทความ

เด็กหลอดแก้ว IVF คืออะไร? ต่างกับ อิ๊กซี่ ICSI ไหม ต้องรู้อะไรอีกบ้างก่อนทำ

Read the story

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ